วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ปรากฏการณ์ดาวอังคารใกล์โลก

ตารางปรากฏการณ์ดาวอังคารใกล้โลกที่ผ่านมาและอนาคต

1 พฤษภาคม พศ.2542 87.20 16 หญิงสาว -1.61
22 มิถุนายน พศ.2544 68.20 21 คนแบกงู (ใกล้แมงป่อง) -2.29
27 สิงหาคม พศ.2546 55.80  25 คนแบกหม้อน้ำ -2.90
30 ตุลาคม  พศ.2548 69.47 20 แกะ -2.27
19 ธันวาคม พศ.2550 88.17 16 คนคู่ -1.66
27 มกราคม พศ.2553 99.33 14 ปู -1.19
5  มีนาคม พศ.2555 100.78 14 สิงโต -1.2
14 เมษายน พศ.2557 92.39 15 หญิงสาว -1.44
30 พฤษภาคม พศ.2559 75.28 19 คันชั่ง -2.03
31 กรกฏาคม พศ.2561 57.59 24 แพะทะเล -2.77



สาเหตุที่โลกและดาวอังคารไม่ได้อยู่ใกล้กันด้วยระยะห่างเหมือนเดิมทุกครั้ง ก็เพราะวงโคจรของทั้งโลกและดาวอังคารเป็นวงรี ซึ่งจะมีตำแหน่งหนึ่งที่โลกอยู่ใกล้ (Perihelion) และไกล(Aphelion) จากดวงอาทิตย์ที่สุด ดาวอังคารก็เช่นกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่ตำแหน่งไกลสุดของโลกมาพบกับตำแหน่งที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่ สุดของดาวอังคาร ก็จะกลายเป็นตำแหน่งที่โลกและดาวอังคารมาอยู่ใกล้กันที่สุด ตามตารางข้างล่าง

ตารางการเกิดปรากฏการณ์ดาวอังคารใกล้โลกที่สุด

กรกฏาคม  พศ.2482 56.64 24 แพะทะเล -2.73
กันยายน  พศ.2499 56.47  25 คนแบกหม้อน้ำ -2.80
สิงหาคม  พศ. 2514 56.00 25 แพะทะเล -2.80
กันยายน  พศ.2531   59.20  24 เซตุส(ใกล้ปลาคู่) -2.69
สิงหาคม พศ.2546 * 55.80 25 คนแบกหม้อน้ำ -2.90
กรกฏาคม พศ.2561 57.59 24 แพะทะเล -2.77
กันยายน พศ.2578 56.84 25 คนแบกหม้อน้ำ -2.79
สิงหาคม พศ.2593 * 55.80 25 แพะทะเล -2.79

                      * เป็นปีที่ดาวอังคารใกล้โลกที่สุด จะมีคาบการครบรอบแบบนี้ทุกๆ 47 ปี

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ดวงจันทร์ของดาวอังคาร

โฟบอส (Phobos) เป็น 1 ใน 2 ดาวบริวารของดาวอังคาร โดยเป็นดาวบริวารที่ใหญ่กว่าและอยู่ใกล้กับดาวอังคารมากกว่า โฟบอสถูกตั้งชื่อตาม โฟบอส ลูกชายของเทพเจ้า Ares หรือ Mars ของกรีกและโรมัน วงโคจรของโฟบอสนับว่าใกล้กับดาวเคราะห์มากที่สุดในบรรดาดาวบริวารทั้งหมดของระบบสุริยะ
โฟบอสถูกค้นพบโดยนักดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน Asaph Hall เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 1877


ดีมอส หรือ ไดมอส (อังกฤษ: Deimos) เป็น 1 ใน 2 ดาวบริวารของดาวอังคาร โดยเป็นดาวบริวารที่เล็กกว่าและอยู่ไกลจากดาวอังคารมากกว่า ดีมอสถูกตั้งชื่อตาม ดีมอส ในเทพปกรณัมกรีกและโรมัน
ดีมอสและดาวบริวารอีกดวงคือโฟบอสถูกค้นพบโดยนักดาราศาสตร์ชาวอเมริกัน Asaph Hall เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1877

ดาวอังคาร (Mars)  
              ดาว อังคารบางทีก็เรียกกันว่าดาวแดงเพราะผิวพื้นเป็นหินสีแดง หินบนดาวอังคารที่มีสีแดงก็เพราะเกิดสนิมท้องฟ้าของดาวดังคารเป็นสีชมพู เพราะฝุ่นจากหินแดงที่ว่านี้   ผิวของดาวอังคารเหมือนกับทะเลหินแดง มีก้องหินใหญ่และหลุมลึก ภูเขาสูง หุบ เหว และเนินมากมาย หนึ่งปีบนดาวอังคารเกือบเทาสองปีโลก แต่หนึ่งวันบนดาวอังคารจะนานกว่าครึ่งชั่งโมงโลกเพียงเล็กน้อยดาวอังคารมี อากาศห่อหุ้มอยู่ไม่มากและเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลมพัดแรงจัดทำให้ฝุ่นฟุ้ง ไปทั้งดวงดาว ดาวอังคารมีขนาดโตประมาณครึ่งหนึ่งของโลก ดาวอังคารอยูไกลดวงอาทิตย์มากกว่าโลกจึงทำให้มีบรรยากาศหนาวเย็น อุณหภูมิบนดาวดวงนี้จะต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
  
                ดาว อังคารเป็นดาวเคราะห์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ในบรรดาดาวเคราะห์บนฟ้าทั้งหมด เพราะเคยมีคนเชื่อว่า มีมนุษย์อยู่บนดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้ ดาวอังคารยังเป็นดาวเคราะห์ที่มีโอกาสเข้ามาใกล้โลกเกือบพอๆ กับดาวศุกร์ โดยระยะใกล้ที่สุดจะอยู่ภายใน 40 ล้านกิโลเมตร เมื่อใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่มีกำลังแยกภาพสูงสุด ส่องดาวอังคารขณะอยู่ใกล้โลกที่สุด จะเห็นรายละเอียดได้ถึง 150 กิโลเมตร ซึ่งเทียบได้กับการเห็นริ้วรอยบนดวงจันทร์ด้วยตาเปล่า ที่กำลังแยกภาพขนาดนี้จะไม่เห็นรายละเอียดของพื้นผิว เช่นไม่เห็นภูเขาหรือหุบเหว หรือหลุมบ่อของดาวอังคาร แต่จะเห็นโครงสร้างใหญ่ๆ เช่นขั้วน้ำแข็งสีขาว หรือริ้วรอยสีคล้ำซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของดาวอังคาร สาเหตุที่มีผู้เชื่อว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่บนดาวอังคาร เนื่องจากนักดาราศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ จิโอวานนี ชิอาพาเรลลี รายงานเมื่อ พ.ศ. 2420 ว่าเขาได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ส่งพบร่องที่เป็นเส้นตรงจำนวนมากบนพื้นผิว และเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า คานาลี (canale) ซึ่งมีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่า channel (ช่องหรือทาง) แต่คนอังกฤษเอาไปแปลว่า canal (คลอง) อันเป็นสิ่งซึ่งต้องขุดสร้างขึ้น ผู้ขุดสร้างคลองบนดาวอังคารจึงต้องเป็นมนุษย์ดาวอังคาร เพื่อนำน้ำจากขั้วมายังบริเวณศูนย์สูตรสำหรับการเพาะปลูก จุดนี้เองที่นำไปสู่การเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้เชื่อว่ามีมนุษย์ดาวอังคาร ซึ่งจะเดินทางมาบุกโลก ผู้ที่สนับสนุกความคิดเรื่องมนุษย์ดาวอังคารสร้างคลองส่งน้ำเพื่อการเพาะ ปลูก คือ เปอร์ซิวัล โลเวลล์ นักดาราศาสตร์อเมริกันและเป็นสมาชิกของครอบครัวที่มั่งคั่งในรัฐแอริโซนา เขาได้ทำแผนที่แสดงคลองต่างๆ บนดาวอังคาร แต่ต่อมามีนักดาราศาสตร์ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีกำลังแยกภาพที่ดีกว่า ตรวจไม่พบคลองบนดาวอังคาร แต่ชาวบ้านทั่วไปยังฝังใจเชื่ออยู่ จนกระทั่งถึงยุคอวกาศจึงปรากฏชัดว่าไม่มีคลองบนดาวอังคารแน่นอน พื้นผิวดาวอังคารมีหลุมบ่อ หุบเหว ภูเขา และมีปล่องภูเขาไฟ มีร่องเหมือนเป็นทางน้ำไหลมาก่อน ดังจะได้กล่าวต่อไปในหัวข้อการสำรวจดาวอังคารโดยยานอวกาศ
                ยาน อวกาศลำแรกที่ประสบความสำเร็จในการผ่านใกล้ดาวอังคาร คือ ยานมารีเนอร์ 4 ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2508 ภาพที่ถ่ายทอดกลับมาจำนวน 22 ภาพแสดงให้เห็นว่าพื้นผิวดาวอังคารมีหลุมและบ่อมากมาย ยานอวกาศมารีเนอร์อีกหลายลำต่อมา สามารถถ่ายภาพพื้นผิวรวมกันแล้วได้ครบทั่วทุกบริเวณ โดยเห็นภาพละเอียดถึง 1 กิโลเมตร ภาพถ่ายเหล่านี้ช่วยให้นักภูมิศาสตร์ทำแผนที่ของดาวอังคารได้ทั้งดวง บนพื้นผิวของดาวอังคารจึงพบการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทางธรณีวิทยา เช่น ปล่องภูเขาไฟ หุบเหวกว้างและลึกร่องที่เหมือนกับร่องน้ำที่เคยเป็นทางน้ำไหลมาก่อน ยานที่สำรวจดาวอังคารต่อจากยานมารีเนอร์ คือ ยานไวกิง 2 ลำ แต่ละลำประกอบด้วยยานลำแม่ที่เคลื่อนรอบดาวอังคาร ในขณะที่ส่งยานลูกลงสัมผัสพื้นผิวดาวอังคาร ยานไวกิง 1 ลงที่ไครส์ พลาทิเนีย (Chryse Planitia) ซึ่งแปลว่า ที่ราบแห่งทองคำ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 เป็นเวลา 7 ปีหลังจากที่ นีล อาร์มสตรอง เหยียบดวงจันทร์ ต่อจากนั้นอีก 2 เดือน ยานไวกิง 2 ก็ลงในที่ราบทางเหนือชือที่ราบยูโทเปีย (Utopia) ยานทั้งสองมีแขนกลยื่นออกไปตักดินบนดาวอังคารมาวิเคราะห์ภายในยาน เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิต หรือซากของสิ่งมีชีวิต แต่การวิเคราะห์ไม่ยืนยันว่ามีหรือเคยมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร ต่อจากยานไวกิงคือ ยานมาร์สพาธไฟเดอร์ ที่นำรถโซเจนเนอร์ไปด้วย ยานได้ลงบนพื้นผิวดาวอังคารเมื่อเดือนกรกฏาคม พ.ศ. 2540 ภาพที่น่าตื่นเต้นคือการติดตามรถคันเล็กๆ เคลื่อนที่สำรวจก้อนหินใกล้ฐานซึ่ง ต่อมาได้รับชื่อว่า ฐานเซแกน ภาพก้อนหินที่เรียงในทิศทางเดียวกันชี้ให้ เห็นว่าบนดาวอังคารเคยมีน้ำไหลมาก่อน ล่าสุดยานมาร์สโกลบอล เซอร์เวเยอร์ ซึ่งกำลังเคลื่อนรอบดาวอังคารได้ส่งภาพหุบเหวที่เป็นร่องลึกหรือที่เรียกว่า แคนยอน ซึ่งคดเคี้ยวไปมา ในอนาคตสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น มีโครงการที่จะส่งยานอวกาศไปเก็บดินจากดาวอังคารกลับมาวิเคราะห์ในห้อง ปฏิบัติการบนโลก และอีกไม่นานมนุษย์จะเดินทางไปดาวอังคารเช่นเดียวกับการลงบนดวงจันทร์ เมื่อ พ.ศ. 2512